ข้อที่ 1. งานที่ดินในประเทศไทย ปรากฏเริ่มแรกในสมัยใด ?
ก. สมัยกรุงสุโขทัย ข. สมัยกรุงศรีอยุธยา
ค. สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ง. ไม่มีข้อใดถูก
ข้อที่ 2. พระเจ้าอยู่หัวพระงองค์ใดทรงเป็นผู้สถาปนากรมที่ดินขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 ?
ก. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ข. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ค. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ง. พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ข้อที่ 3. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับการย้ายสังกัดและเรียกชื่อของกรมที่ดิน ในสมัยรัตนโกสินทร์.ศก 120 ?
ก. กรมทะเบียนที่ดิน : กระทรวงมหาดไทย
ข. กรมที่ดิน : กระทรวงเกษตราธิการ
ค. กรมที่ดินและโลหะกิจ : กระทรวงมหาดไทย
ง. กรมที่ดิน : กระทรวงมหาดไทย
ข้อที่ 4. บุคคลตามข้อใดดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ากรมที่เป็นท่านคนแรก ?
ก. มิสเตอร์ดับบลิว เอ. เกรแฮม
ข. หลวงประมวลภูมิเทศ (เฮง วิริยะศิริ)
ค. นายอาร์. ดี. เครก
ง. พระหัตถสารศุภิกิจ (ภู่)
ข้อที่ 5. ส่วนราชการของกรมที่ดินในข้อใดอยู่ระดับเดียวกัน ?
ก. ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ : สำนักจัดการที่ดินของรัฐ
ข. ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ : รองอธิบดีกรมที่ดิน
ค. สำนักจัดการที่ดินของรัฐ : รองอธิบดีกรมที่ดิน
ง. ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ : สำนักกฎหมาย
ข้อที่ 6. ข้อใดกล่าวถึงพันธกิจของกรมที่ดินได้ถูกต้อง ครบถ้วนมากที่สุด ?
ก. บริหารจัดการที่ดินของรัฐให้มีประสิทธิภาพ
ข. ให้บริการเกี่ยวกับที่ดิน
ค. ส่งเสริมและดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ง. บริหารจัดการข้อมูลที่ดิน และแผนที่
ข้อที่ 7. พนักงานท่านใดของกรมที่ดินมีวัฒนธรรมองค์กรที่ครบถ้วน ถูกต้องมากที่สุด ?
ก. นายเอ มาทำงานตรงตามเวลา รักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ข. นายบี มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมงาน ช่วยทำงานที่คั่งค้างให้เสมอ
ค. นายซีเป็นพนักงานเขียนแผนที่ เมื่อมีเวลาว่าง จะช่วยรดน้ำต้นไม้แทนคนสวนเสมอ
ง. นายดี ใส่ใจงานบริการ รักษากฎระเบียบทุกข้ออย่างเคร่งครัด
ข้อที่ 8. ข้อใดบ่งบอกถึงค่านิยมกรมที่ดินได้ถูกต้อง ?
ก. มุ่งผลสัมฤทธิ์ รักสามัคคี ยึดมั่นจริยธรรม รับผิดชอบต่อหน้าที่ ตรงต่อเวลา
ข. น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งผลสัมฤทธิ์ รักสามัคคี ตรงต่อเวลา
ค. มุ่งผลสัมฤทธิ์ รักสามัคคี มีจิตบริการ รับผิดชอบต่อหน้าที่
ง. น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งผลสัมฤทธิ์ รักสามัคคี มีจิตบริการ ยึดมั่นจริยธรรม
ข้อที่ 9. ภารกิจในข้อใดถือเป็นภารกิจตามประมวลกฎหมายที่ดินทั้งหมด ?
ก. การดำเนินงานออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ราษฎร การรังวัดและทำแผนที่
ข. รังวัดออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงในที่ดิน สาธารณประโยชน์และในที่ราชพัสดุ
ค. การควบคุมการจัดสรรที่ดิน การควบคุมช่างรังวัดเอกชน
ง. การจดทะเบียนอาคารชุด การรังวัดและทำแผนที่
ข้อที่ 10. ข้อใดคือองค์ประกอบของคณะกรรมการช่างรังวัดเอกชน ?
ก. อธิบดีกรมที่ดิน
ข. นายช่างใหญ่กรมที่ดิน
ค. ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 11. คณะกรรมการช่างรังวัดเอกชนท่านใด ใช้มีอำนาจหน้าที่ได้ถูกต้อง ?
ก. นายเอ กำหนดคุณวุฒิ คุณสมบัติและพื้นความรู้ของผู้ที่จะเป็นช่างรังวัดเอกชน
ข. นางสาวบี กำหนดมาตรฐานเครื่องมือที่จะใช้รังวัดของช่างรังวัดเอกชน
ค. นางซีควบคุมสอดส่องความประพฤติและมรรยาทของช่างรังวัดเอกชน
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 12. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับผู้ขออนุญาตจัดตั้งสำนักงานช่างรังวัดเอกชน ?
ก. อาจเป็นได้ทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
ข. จัดให้มีผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เป็นช่างรังวัดเอกชน ในสังกัดจำนวนไม่น้อยกว่า 4 คน
ค. มีกรรมสิทธิ์ในเครื่องมือรังวัด ซึ่งไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนไว้กับนายทะเบียน
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 13. การโอนใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน มีอัตราค่าธรรมเนียม ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2544 เท่าไร ?
ก. รายละ 2,000 บาท ข. รายละ 3,000 บาท
ค. รายละ 4,000 บาท ง. รายละ 5,000 บาท
ข้อที่ 14. การออกใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน ให้คณะกรรมการออกใบอนุญาตภายในกำหนดกี่วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบให้ทำการจัดสรรที่ดิน ?
ก. 3 วัน ข. 5 วัน
ค. 7 วัน ง. 15 วัน
ข้อที่ 15. ในกรณีที่คณะกรรมการไม่เห็นชอบหรือมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน ผู้ขอมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง ภายในกี่วัน นับแต่วันที่ทราบคำสั่ง ?
ก. 15 วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
ข้อที่ 16. นายเอฟ ต้องชำระอัตราค่าธรรมเนียม ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2544 เท่าไร หากนายเอฟต้องการจัดสรรที่ดินเป็นที่ประกอบเกษตรกรรม จำนวน 10 ไร่ ?
ก. 100 บาท ข. 250 บาท
ค. 1,000 บาท ง. 2,500 บาท
ข้อที่ 17. ข้อใดถูกเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอจดทะเบียนอาคารชุด และจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด ?
ก. ค่าจดทะเบียนอาคารชุด 200 บาท
ข. ค่าออกหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ห้องละ 20 บาท
ค. ค่าปิดประกาศให้แก่ผู้ปิดประกาศรายละ 200 บาท
ง. ค่าจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุด 2,000 บาท
ข้อที่ 18. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าว ?
ก. คนต่างด้าวสามารถซื้อที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ไม่เกิน 1 ไร่
ข. นำเงินมาลงทุนในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี
ค. คนต่างด้าวอาจได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินโดยได้รับมรดกในฐานะที่เป็นทายาทโดยธรรมได้
ง. ที่ดินที่คนต่างด้าวจะได้มาต้องอยู่ภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล