1. “พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535” มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ข. วันถัดไป นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ค. เมื่อพ้นกำหนดสิบวันนับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ง. เมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ก. เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 2 พระราชพระราชบัญญัตินี้ให้บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวัน นับตั้งแต่วันประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้กับโรงงานของทางราชการเพื่อเหตุผลใด
ก. เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในประเทศ
ข. เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ
ค. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานราชการ
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ
มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่โรงงานของทางราชการที่ดำเนินการโดยทางราชการ เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ
แต่ในการประกอบกิจการนี้ไปเป็นแนวทางในการดำเนินงาน
3. โรงงาน หมายความว่าอย่างไร
ก. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมห้าแรงม้า
ข. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมสิบแรงม้า
ค. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมสิบห้าแรงม้า
ง. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมยี่สิบแรงม้า
ตอบ ก. อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมห้าแรงม้า
มาตรา 5 ในพระราชบัญญัตินี้
“โรงงาน” หมายความว่า อาคาร สถานที่ หรือที่ยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ห้าแรงม้าหรือกำลังเทียบเท่าตั้งแต่ห้าแรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่เจ็ดคนขึ้นไป โดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตามสำหรับทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบำรุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือทำลายสิ่งใดๆ ทั้งนี้ ตามประเภทหรือชนิดของโรงงานที่กำหนดในกฎกระทรวง
“ตั้งโรงงาน” หมายความว่า การก่อสร้างอาคารเพื่อติดตั้งเครื่องจักรสำหรับประกอบกิจการ โรงงาน หรือนำเครื่องจักร สำหรับประกอบกิจการโรงงานมาติดตั้งในอาคารสถานที่หรือยานพาหนะที่จะประกอบกิจการ
“ประกอบกิจการโรงงาน” หมายความว่า การทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบำรุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือทำลายสิ่งใดๆ ตามลักษณะกิจการของโรงงานแต่ไม่รวมถึงการทดสอบเดินเครื่องจักร
“เครื่องจักร” หมายความ สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นสำหรับใช้ก่อกำเนิดพลังงาน เปลี่ยนหรือแปรสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ ลม ก๊าซไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน และหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ไฟลวีล ปุลเล สายพาน เพลา เกียร์ หรือสิ่งอื่นที่ทำงานสนองกัน
“คนงาน” หมายความว่า ผู้ซึ่งทำงานในโรงงาน ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผู้ซึ่งทำงานฝ่ายธุรการ
“ผู้อนุญาต” หมายความว่า ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายตามเหมาะสม
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“ปลัดกระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
4. ในพระราชบัญญัติฉบับนี้รัฐมนตรีหมายถึงบุคคลใด
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
5. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตาม มาตรา 8(1) (2) (3) (4) (5) หรือ (8) หรือประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว
ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกินห้าเดือน
ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน
ค. ปรับไม่เกินสองแสนบาท
ง. ปรับไม่เกินสามแสนบาท
ตอบ ค. ปรับไม่เกินสองแสนบาท