1.สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดวิชา “เศรษฐศาสตร์ ” ขึ้นคือ
ก.  ความวิตกกังวล ว่าทรัพยากรจะหมดไปจากโลก เมื่อได้มีการนำมาใช้ผลิตสินค้า
ข. ความไม่เพียงของทรัพยากรที่จะใช้ผลิตสินค้า และบริการสนองความต้องการของมนุษย์
ค. ความปรารถนาที่จะขจัดความยากจนให้หมดไปจากโลกมนุษย์
ง. ความมีคุณธรรมของประเทศที่ก้าวหน้าแล้วที่มุ่งจะช่วยประเทศกำลังพัฒนา
ตอบข้อ ข. ความไม่เพียงของทรัพยากรที่จะใช้ผลิตสินค้า และบริการสนองความต้องการของมนุษย์

2. การศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ สามารถช่วย
ก.  แก้ปัญหาเกี่ยวกับการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข. แก้ปัญหาเกี่ยวกับการติดต่อค้าขายระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ค. จัดสรรทรัพยากรเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ง. ชี้ให้เห็นได้ว่าระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมดีกว่าระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม
ตอบข้อ ค. จัดสรรทรัพยากรเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ความหมายของคำว่า “เศรษฐกิจ ” มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับคำใดต่อไปนี้มากที่สุด
ก.  เสรีภาพ
ข. เข้มงวด
ค. ไม่จำกัด
ง. จำกัด
ตอบข้อ ง. จำกัด

4. ข้อความใดต่อไปนี้ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาเศรษฐศาสตร์
ก.  การแก้ปัญหาความยากจนของประเทศ
ข. การแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น
ค. การแก้ปัญหาโจรผู้ร้ายที่มีความเหี้ยมดหดมากขึ้น
ง. การแก้ปัญหาพื้นดินแห้งแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอบข้อ ค. การแก้ปัญหาโจรผู้ร้ายที่มีความเหี้ยมดหดมากขึ้น

5. “ จุลเศรษฐศาสตร์ ” เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ
ก.  การกำหนดราคาสินค้าและบริการในตลาดสินค้าและบริการ
ข. การกำหนดราคาปัจจัยการผลิตในตลาดปัจจัยการผลิต
ค. การจัดสรรทรัพยากรจำนวนขาดแคลนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบข้อ ง. ถูกทุกข้อ

6. ปัญหาความขาดแคลนที่ปรากฏอยู่ในระบบเศรษฐกิจ มีสาเหตุพื้นฐานมาจาก
ก.  ทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจมีจำนวนจำกัดแต่ความต้องการของมนุษย์มีไม่จำกัด
ข. การใช้ทรัพยากรของระบบเศรษฐกิจเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ
ค. การใช้ทรัพยากรของระบบเศรษฐกิจเป็นไปอย่างไม่เต็มที่
ง. ไม่มีการแสวงหาทรัพยากรใหม่ๆมาใช้แทนทรัพยากรที่หมดสิ้นไป
ตอบข้อ ก.  ทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจมีจำนวนจำกัดแต่ความต้องการของมนุษย์มีไม่จำกัด

7. ข้อความใดต่อไปนี้เกี่ยวกับเรื่องของ “ จุลเศรษฐศาสตร์”
ก.  ในขณะที่ดัชนีราคาขายปลีกมีแนวโน้มสูงขึ้นการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำของรัฐจะไม่สามารถช่วยทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของบรรดาคนงานดีขึ้นแต่อย่างใด
ข. นโยบายส่งเสริม การผลิตแกสธรรมชาติของรัฐ ก็เพื่อช่วยลดความขาดแคลนสิ่งที่จะใช้เป็นพลังงานของประเทศ อันจะมีผลช่วยตรึง ระดับราคาสินค้าที่ใช้เป็นพลังได้บ้าง
ค. นโยบายการสร้างเขื่อนในชนบทของรัฐนอกจากจะมีจุดมุ่งเพื่อช่วยเกษตรกรในเรื่องของการชลประทานแล้วยังเป็นการสร้างงานและบรรเทาภาวะการว่างงานลงได้
ง. การระดมขายพันธบัตรของรัฐบาลก็เพื่อหาเงินมาใช้ในการพัฒนาประเทศ
ตอบข้อ ข. นโยบายส่งเสริม การผลิตแกสธรรมชาติของรัฐ ก็เพื่อช่วยลดความขาดแคลนสิ่งที่จะใช้เป็นพลังงานของประเทศ อันจะมีผลช่วยตรึง ระดับราคาสินค้าที่ใช้เป็นพลังได้บ้าง

8. ปัญหาความขาดแคลนที่กล่าวถึงในข้อ 6 จะมีปรากฎอยู่
ก.  ในทุกๆรูปแบบของระบบเศรษฐกิจ
ข. เฉพาะในระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม
ค. เฉพาะในระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม
ง. เฉพาะในระบบเศรษฐกิจผสม
ตอบข้อ ก.  ในทุกๆรูปแบบของระบบเศรษฐกิจ

9. สืบเนื่องจากปัญหาความขาดแคลน ระบบเศรษฐกิจจะเผชิญกับปัญหา
ก.  การผลิต
ข. การบริโภค
ค. การแจกจ่าย
ง. การเลือก
ตอบข้อ ง. การเลือก

10. ระบบเศรษฐกิจที่เป็นอยู่โดยทั่วๆไปคือระบบเศรษฐกิจแบบ
ก.  เสรีนิยม
ข. สังคมนิยม
ค. ผสม
ง. เผด็จการ
ตอบข้อ ค. ผสม

11. ระบบเศรษฐกิจที่ดีที่สุดที่ทุกประเทศควรเลือกนำมาใช้คือระบบเศรษฐกิจแบบ
ก.  เสรีนิยม
ข. สังคมนิยม
ค. ผสม
ง. ไม่อาจบอกได้
ตอบข้อ ง. ไม่อาจบอกได้

12. ข้อดีของระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมเหนือส่วนที่ 1 เศรษฐกิจสังคมนิยมที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป คือ
ก.  ความเสมอภาค
ข. ความมีประสิทธิภาพ
ค. ความมีวินัย
ง. ความเสมอภาค  ความมีประสิทธิภาพ  และความมีวินัย
ตอบข้อ ข. ความมีประสิทธิภาพ

13. ข้อดีของระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป คือ
ก.  ความเสมอภาค
ข. ความมีประสิทธิภาพ
ค. ความมีวินัย
ง. ความเสมอภาค  ความมีประสิทธิภาพ  และความมีวินัย
ตอบข้อ ก.  ความเสมอภาค

14. ในระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม การแก้ปัญหาว่าระบบเศรษฐกิจควรผลิตสินค้าอะไร  ผลิตอย่างไร และจะแจกจ่ายสินค้าที่ผลิตได้อย่างไร กระทำโดย
ก.  คณะกรรมการฝ่ายวางแผนของระบบเศรษฐกิจ
ข. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ค. วุฒิสมาชิก
ง. กลไกราคา
ตอบข้อ ง. กลไกราคา

15. การศึกษาวิชา “เศรษฐศาสตร์ ” เป็นสิ่งจำเป็น
ก.  เฉพาะในระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม
ข. เฉพาะในระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม
ค. เฉพาะในระบบเศรษฐกิจผสม
ง. เฉพาะในระบบเศรษฐกิจ
ตอบข้อ ง. เฉพาะในระบบเศรษฐกิจ

16. ภายในกระแสหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ก.  ผู้บริโภคจะนำสินค้าและบริการออกแลกเปลี่ยนกับค่าแรง ค่าเช่า ดอกเบี้ย หรือกำไรแล้วแต่กรณี
ข. ผู้ผลิตจะนำสินค้าและบริการออกแลกเปลี่ยนกับค่าแรง ค่าเช่า ดอกเบี้ย หรือกำไรแล้วแต่กรณี
ค. ผู้ผลิตจะติดต่อเฉพาะกับผู้บริโภค เพื่อขายสินค้าและบริการของตน เพื่อแลกเปลี่ยนกับจำนวนเงินค่าขาย
ง. ผู้ผลิตจะขายสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภค เพื่อนำรายได้จากการขายมาจ่ายให้กับเจ้าของปัจจัยการผลิตต่างๆ
ตอบข้อ ง. ผู้ผลิตจะขายสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภค เพื่อนำรายได้จากการขายมาจ่ายให้กับเจ้าของปัจจัยการผลิตต่างๆ

17. ตัวอย่างของสินค้าได้เปล่า ได้แก่
ก.  ยารักษาโรคที่โรคพยาบาลจ่ายให้คนไข้อนาถา
ข. สมุด หนังสือเรียนที่รัฐแจกให้นักเรียนยากจน
ค. บัตรโดยสารรถเมล์โดยไม่เสียเงินของทหารผ่ายศึก
ง. อากาศที่เราหายใจ
ตอบข้อ ง. อากาศที่เราหายใจ

18. “ เศรษฐศาสตร์ที่เป็นอยู่จริง ” เกี่ยวข้องกับ
ก.  สถานการณ์ที่เคยเป็นอยู่ในอดีต กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน และจะเป็นไปในอนาคต
ข. สถานการณ์ที่เคยเป็นอยู่ในอดีต กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน และควรจะเป็นในอนาคต
ค. สถานการณ์ที่พึงปรารถนาของสังคม
ง. สถานการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาของสังคม
ตอบข้อ ก.  สถานการณ์ที่เคยเป็นอยู่ในอดีต กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน และจะเป็นไปในอนาคต

19. “เศรษฐศาสตร์ที่ควรจะเป็น ” เป็นศาสตร์ที่
ก.  สามารถทดสอบจากข้อเท็จจริงได้
ข. ศึกษาสภาพที่เป็นอยู่จริงในขณะหนึ่งๆ
ค. ใช้คาดคะเนสถานการณ์ในอนาคต
ง. เกี่ยวข้องกับค่านิยมของสังคม
ตอบข้อ ง. เกี่ยวข้องกับค่านิยมของสังคม

20. ตัวแปรทุกตัวที่เราศึกษาหาความสัมพันธ์อยู่ในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ทฤษฎีหนึ่งๆเรียกว่า
ก.  ตัวแปรภายใน
ข. ตัวแปรภายนอก
ค. ตัวแปรนำ
ง. ตัวแปรตาม
ตอบข้อ ก.  ตัวแปรภายใน