การเตรียมตัวสอบกรมประชาสัมพันธ์
28 กรกฎาคม 2564
ผู้ชม 319 ผู้ชม
การเตรียมตัวสอบกรมประชาสัมพันธ์
คำแนะนำในการสอบกรมประชาสัมพันธ์
กรมประชาสัมพันธ์ เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลไทย ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่เสริมสร้างความเข้าใจ ระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนกับประชาชนด้วยกัน นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่โน้มน้าวชักจูงประชาชน ให้ร่วมมือกับรัฐบาล และหน่วยงานราชการ
กรมประชาสัมพันธ์ มีวิวัฒนาการมาจาก “กองโฆษณาการ” ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2476 ภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 ต่อมาพัฒนาเป็น “สำนักงานโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปีเดียวกัน[3] พัฒนาขึ้นเป็น “กรมโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2483 และพัฒนามาเป็น “กรมประชาสัมพันธ์” ดังเช่นปัจจุบัน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495
ในการสอบเข้ากรมประชาสัมพันธ์ การสอบบรรจุเข้ารับราชการผู้เข้าสอบจะต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของสำนักงาน ก.พ. ก่อน แต่ถ้าสอบเป็นพนักงานราชการไม่ต้องใช้ใบสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. การสอบเข้ากรมประชาสัมพันธ์ จะมีการประเมินสมรรถนะอยู่ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 โดยการสอบข้อเขียน ครั้งที่ 2 โดยการสัมภาษณ์ และจะต้องผ่านการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 1 โดยวิธีการสอบข้อเขียนก่อนและเมื่อผ่านการประเมินสรรถนะครั้งที่ 1 แล้ว จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 2 โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ทั้งนี้จะต้องได้คะแนนสอบข้อเขียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
การเตรียมตัวสอบ
ในส่วนการสอบวิชาเฉพาะตำแหน่ง ควรอ่านให้มากๆ ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาตำแหน่งให้ดี ข้อสอบจะเป็นระเบียบข้อกฏหมาย วิชากฎหมายก็อ่านฉบับเต็ม ท่องให้ได้ทุกมาตราอย่าไปอ่านเเต่ช้อย มันไม่ตรงนัก ฝึกลองวิเคราะห์ข้อสอบ หาปากกาเน้นข้อความมาขีดเพื่อจำง่าย แล้วสรุป หรือท่องให้ได้ ฝึกทำข้อสอบเก่า โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นจุดบกพร่องของเราทำซ้ำๆจนเข้าใจ
ควรอ่านเนื้อหาที่จะออกสอบในประกาศ และดูเวลาว่าเหลือเวลากี่วันที่จะต้องสอบ และนำเนื้อหาการสอบมาทำความเข้าใจว่าแต่ละเรื่องเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ค้นหาเนื้อหาแต่ละเนื้อหารวบรวมทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าเกี่ยวข้องและจำเป็น แล้วแยกใส่ในแฟ้มงานเป็นหมวดๆ เมื่อได้เนื้อหาครบหมดแล้ววิเคราะห์ว่าแต่ละเนื้อหาใช้เวลาในการอ่านเท่าไหร่ แล้วนำผลรวมออกมาเทียบกับเวลาที่เรามีในการเตรียมตัวสอบ จากนั้นนำเวลามาถัวเฉลี่ย ให้ความหนักเบากับวิชาที่จะสอบ ว่าวิชาไหนเรื่องไหนใช้เวลาเท่าไหร่ แล้วจัดทำตารางการอ่านหนังสือเป็นช่วงเวลาอาจจะแบ่งเป็นต่อสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ แล้วนำมาแปะไว้ที่ไหนก็ได้ที่เราสังเกตเห็นได้ชัด ในการอ่านแต่ละวิชาควรอ่านอย่างน้อย 2 รอบ รอบแรกเป็นการอ่านรวมๆ เพื่อหาว่าจุดไหนสำคัญบ้างให้นำปากกาเน้นคำ Mark ไว้ รอบที่สอง จดบันทึกสิ่งที่เรา Mark ไว้ สรุปเป็นภาษาของเราเองเพื่อเอาไว้อ่านก่อนสอบ 1 วัน และก่อนนอนนั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที สวดมนต์ด้วยก็ยิ่งดี นอกจากนี้ควรศึกษาเส้นทางการสอบ ห้องสอบให้ดี พอถึงสนามสอบให้ตรวจดูห้องสอบหรือนั่งหน้าห้องสอบรอเลยก็ได้ เพื่อป้องกันความกังวลใจ หรือเรื่องรบกวนใจ เมื่อใกล้จะสอบควรงดการพูดจาเรื่อยเปื่อย คุยสนุกเรื่องอื่น กับเพื่อนที่ร่วมสอบ หรือใครก็ตามอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสมองไปจำอย่างอื่น ให้คิดแต่เรื่องสอบอย่างเดียว
นอกจากนี้ควรหาความรู้เกี่ยวกับหน่วยงานด้วย เช่น ประวัติ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม ผู้บริหาร หน้าที่ความรับผิดชอบ โดยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และให้ติดตามข่าวสารต่างๆแล้วจับประเด็นให้ได้
นอกจากวิชาการที่ต้องใช้ตามวุฒิที่จะรับแล้ว ยังต้องทำการบ้านด้วยว่าหน่วยงานนั้นมีการแบ่งองค์กรยังไง ผู้บริหารเป็นใครในแต่ละระดับ แต่ละส่วนขององค์กรทำงานอะไร มีหน้าที่อะไร ตำแหน่งที่เราจะบรรจุมีหน้าที่อะไร ไปที่หน่วยงานนั้น ถ้ามีห้องสมุดหรือเอกสารเผยแพร่ควรไปอ่านให้หมด ปัจจุบันมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานหรือตำแหน่งที่จะทำหรือไม่ อย่างไร
ส่วนในการสอบสัมภาษณ์เป็นการสอบด้วยการสนทนาหรือพูดคุยกัน ดังนั้นผู้เข้าสอบควรจะทบทวนเตรียมความรู้หรือข้อมูลในส่วนที่เป็นวิชาการหรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้แล้วในการเตรียมตัวเข้าสอบข้อเขียน ซึ่งอาจจะใช้เวลาครั้งละ 10 – 30 นาที แล้วแต่กรณี หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การเตรียมตัวเข้ารับการสอบสัมภาษณ์จำเป็นต้องทบทวนความรู้ และข้อมูลบางประการมิใช่เข้าสอบโดยมิได้ทบทวนความรู้หรือข้อมูลอะไรเลย การสัมภาษณ์เป็นการพูดคุยกัน ไม่ต้องเครียด ต้องแสดงความจริงใจ อย่าเสแสร้ง กรรมการจะดูกริยา ลักษณะการพูดจาเป็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง เนียมไม่เนียม สำคัญจุดแรกที่กรรมการจะพิจารณาคือการแต่งกายของผู้เข้าสัมภาษณ์ ดูดี สะอาด ผมรัดผูกให้สวยงาม แต่งหน้าแต่พองาม พูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด อย่าพาใครไปเป็นเพื่อน
ในการสัมภาษณ์ควรทำใจให้สบาย ตอบคำถามแบบธรรมขาติ เป็นตัวของตัวเอง โดยส่วนใหญ่กรรมการจะถามคำถามต่อไปนี้ คือ 1. ให้แนะนำตัวเอง 2.เหตุผลในการตัดสินใจเข้ารับราชการ 3. เล่าถึงประสบการณ์ในการทำงาน
ตัวอย่างข้อสอบนักสื่อสารมวลชนปฏิบัติการ กรมประชาสัมพันธ์
ข้อสอบกา มี 60 ข้อ
- ข่าว กับ ความรู้เกี่ยวกับกรมประชาสัมพันธ์
- ข่าวฟุตบอลโลก
- อุปกรณ์ที่ใช้เป่าในสนามฟุตบอลเรียกว่าอะไร
- เพลง waka waka ของชากีร่า ท่อนฮุกร้องว่าอย่างไร
- สนามที่ใช้แข่งมีกี่สนาม
- ปัญหาที่ประเทศไทยถ่ายทอดพิธีเปิดบอลโลกไม่ได้ทำให้ขายเสาอากาศดี เพราะอะไร
- น้ำมันรั่วอ่าวเมกซิโก ใครเปนคนรับผิดชอบ และรั่วเพราะอะไร
- ปี 2553 วิทยุไทย ครบรอบกี่ปี = 80 ปี
- คลื่น วิทยุมีความถี่เท่าไร
- คลื่นวิทยุของสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยมีกี่คลื่นรวมเอฟเอ็ม เอเอ็ม
- สถานีวิทยุส่วนกลาง FMมีกี่สถานี AM มีกี่สถานี
- เว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์คืออันไหน
- รายการที่นายกอภิสิทธิ์ออกอากาศเวลาไหน วันไหน มีกี่อัน
แล้วก็ออกข้อเขียน 2 ข้อ ข้อละ 100 คะแนน
1. ในช่วงวิกฤตบ้านเมืองที่ผ่านมา ถ้าเราต้องผลิตรายการวิทยุเราจะผลิตรายการอย่างไร ออกอากาศแบบไหน ต้องทำอะไรบ้าง
2. ในช่วงวิกฤตบ้านเมืองที่ผ่านมา ถ้าเราต้องผลิตรายการTV สัมภาษณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ เราจะผลิตรายการอย่างไร ออกอากาศแบบไหน ต้องทำอะไรบ้าง
วิชาที่ใช้สอบ มีดังนี้คือ
1. ทดสอบโดยการสอบข้อเขียน ( 200 คะแนน )
- ความรู้เกี่ยวกับกรมประชาสัมพันธ์
- กฎหมาย ระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง
- ความรู้เฉพาะเกี่ยวกับงานที่ปฏิบัติ
- ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ข่าว ความรู้รอบตัว
- ความรู้เกี่ยวกับอาเซียน
- หลักสื่อสารมวลชน ทฤษฎีสื่อสารมวลชน
2. ความเหมาะสมกับตำแหน่ง ( 100 คะแนน ) เป็นการทดสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตําแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้งโดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่นเพื่อประเมินความเหมาะสมกับตําแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางานประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติการปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขันเพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่นๆ ที่จําเป็นสําหรับตําแหน่ง
ทั้งนี้ กําหนดให้ผู้สมัครสอบ ต้องสอบความรู้ความสามารถเฉพาะตําแหน่งก่อนผ่านก่อน โดยมีคะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จึงจะมีสิทธิเข้าสอบภาคความเหมาะสมกับตําแหน่ง
รายละเอียดวิชาที่สอบ
นักประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์
1 ความรู้เกี่ยวกับกรมประชาสัมพันธ์
2 แนวข้อสอบกรมประชาสัมพันธ์
3 การบริหารแผนงาน โครงการ
4 การเขียนเพื่อการประชาสัมพันธ์
5 ความรู้เกี่ยวการเขีนนข่าวและรายงานข่าว
6 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์
7 หลักการประชาสัมพันธ์
8 การผลิตสื่อวีดิทัศน์เพื่อการประชาสัมพันธ์
9 แนวข้อสอบความรู้เรื่องการประชาสัมพันธ์
10 การเตรียมตัวสอบภาค ค.กรมประชาสัมพันธ์